แทงบอลแฮนดิแคป กับความรู้และเทคนิคสำหรับการเดิมพันที่แม่นยำ

การแทงบอลแฮนดิแคปต่างจากการ แทงบอล1X2 ซึ่งในแบบ 1X2 จะเป็นการทายผลว่าทีมใดจะชนะหรือเสมอ โดยไม่มีการใช้แต้มต่อ เช่น:

• 1 (เจ้าบ้านชนะ) แทงว่าเจ้าบ้านจะชนะ
• X (เสมอ) แทงว่าผลจะเสมอ
• 2 (ทีมเยือนชนะ) แทงว่าทีมเยือนจะชนะ

สำหรับแฮนดิแคปจะมีแต้มต่อที่เพิ่มความยากขึ้น เช่น หากคุณเลือกแทงทีมต่อที่ -1 จะต้องชนะ 2 ลูกขึ้นไปจึงจะชนะการเดิมพัน

การแทงบอลแฮนดิแคป (Handicap Betting) และ การแทงบอลแบบ 1X2 (1X2 Betting) เป็นสองรูปแบบที่นิยมในการเดิมพันฟุตบอล แต่ทั้งสองมีลักษณะการเล่นที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่ของวิธีการเดิมพันและวิธีการคิดคำนวณอัตราต่อรอง นี่คือการเปรียบเทียบและแตกต่างกันของทั้งสองรูปแบบ:

1. วิธีการการเดิมพัน

• แทงบอลแฮนดิแคป: การเดิมพันแบบแฮนดิแคปจะมีการให้แต้มต่อหรือการลดแต้มให้กับทีมที่มีฟอร์มแข็งแกร่ง เพื่อสร้างสมดุลระหว่างทีมที่มีฟอร์มดีกว่าและทีมที่มีฟอร์มอ่อนกว่า ตัวอย่างเช่น หากทีม A แข็งแกร่งกว่าทีม B นักพนันอาจจะต้องเดิมพันว่า ทีม A จะชนะหลังจากที่ถูกลดคะแนนบางส่วน เช่น ทีม A -1 (หมายความว่า ทีม A ต้องชนะทีม B มากกว่าหนึ่งประตูถึงจะถือว่าเดิมพันชนะ)
• แทงบอล 1X2: การเดิมพันแบบ 1X2 เป็นการเลือกผลการแข่งขันโดยตรง ว่าทีมใดจะเป็นฝ่ายชนะ (1 = ทีมเจ้าบ้านชนะ, X = เสมอ, 2 = ทีมเยือนชนะ) นักพนันไม่ต้องพิจารณาแต้มต่อหรืออัตราต่อรองที่ซับซ้อน เพียงแค่ทายผลการแข่งขันให้ถูกต้อง

2. ความยากง่ายในการทำความเข้าใจ

• แทงบอลแฮนดิแคป: เนื่องจากมีการปรับแต้มต่อในแต่ละเกม การทำความเข้าใจในรูปแบบนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษาค่อนข้างมาก เพราะนักพนันต้องคำนึงถึงสถิติและข้อมูลหลายๆ ด้าน เช่น ฟอร์มการเล่นของทีม อาการบาดเจ็บ หรือการปรับเปลี่ยนในผู้เล่นของทีม
• แทงบอล 1X2: วิธีการเดิมพันแบบ 1X2 ถือเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า เนื่องจากมีเพียงสามตัวเลือกที่ชัดเจน (1, X, 2) นักพนันเพียงแค่เลือกผลการแข่งขันที่คิดว่าจะเกิดขึ้นในเกมนั้นๆ โดยไม่ต้องคิดคำนวณแต้มต่อ

3. ความเสี่ยงในการเลือกเดิมพัน

• แทงบอลแฮนดิแคป: แม้ว่าจะมีความท้าทายและผลตอบแทนที่สูง แต่การแทงบอลแฮนดิแคปมักจะมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเมื่อทีมที่เป็นต่อ (ทีมที่แข็งแกร่งกว่า) ต้องทำประตูให้เกินอัตราต่อรองที่กำหนดเพื่อให้ชนะในการเดิมพัน ตัวอย่างเช่น หากทีม A ต่อ 1 ลูก ทีม A ต้องชนะด้วยคะแนนมากกว่า 1 ประตูถึงจะถือว่าชนะเดิมพัน
• แทงบอล 1X2: การแทงบอล 1X2 มีความเสี่ยงที่น้อยกว่าในแง่ของการคำนวณ เพราะเพียงแค่ทายผลการแข่งขันได้ถูกต้อง ซึ่งอาจจะไม่ต้องพิจารณาแต้มต่อที่ซับซ้อน แต่ก็ต้องคำนึงถึงความไม่แน่นอนในผลการแข่งขันที่อาจมีการเสมอหรือผลพลิกล็อก

4. ความหลากหลายของการเดิมพัน

• แทงบอลแฮนดิแคป: การแทงบอลแฮนดิแคปมีความหลากหลายมากขึ้นในแง่ของอัตราต่อรองและการเลือกเดิมพัน นักพนันสามารถเลือกเดิมพันในหลายรูปแบบ เช่น การเดิมพันแบบแฮนดิแคปเต็มเวลา หรือการเดิมพันในแบบเอเชียนแฮนดิแคปที่มีการให้แต้มต่อในรูปแบบต่างๆ
• แทงบอล 1X2: ในการแทงบอล 1X2 นักพนันมีเพียงสามตัวเลือกที่ต้องเลือก แต่ความหลากหลายในการแทงนั้นก็อยู่ที่การเลือกทีมที่จะชนะหรือเสมอ โดยไม่คำนึงถึงแฮนดิแคปหรือลูกได้เสีย ซึ่งช่วยให้มีความตรงไปตรงมามากขึ้น

5. เหมาะสำหรับใคร

• แทงบอลแฮนดิแคป: เหมาะสำหรับนักพนันที่ต้องการความท้าทายและมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับฟุตบอล เนื่องจากต้องคำนวณอัตราต่อรองและพิจารณาหลายปัจจัยในการเดิมพัน
• แทงบอล 1X2: เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นแทงบอล หรือผู้ที่ชอบการเดิมพันที่ง่ายและไม่ซับซ้อน เพราะไม่ต้องพิจารณาแต้มต่อหรือสถิติที่ยุ่งยาก

การแทงบอลแฮนดิแคปและการแทงบอลแบบ 1X2 ทั้งสองมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความถนัดและประสบการณ์ของนักพนัน หากคุณต้องการความท้าทายและยอมรับความเสี่ยงที่มากขึ้น การแทงบอลแฮนดิแคปอาจจะเหมาะสมกว่า แต่หากคุณชอบการเดิมพันที่ง่ายและไม่ซับซ้อน การแทงบอลแบบ 1X2 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สามารถตอบโจทย์ได้เช่นกัน